Saturday, July 21, 2007

จอแตก ใจสลาย กับ iPod ของฉัน


สวัสดีครับ วันนี้มากับหัวข้อที่ไม่ค่อยดีเลยครับ แต่อยากจะบอกต่อ ๆ กันครับเพื่อจะได้ระวังกันครับ สำหรับทุกสิ่งที่เรารักต้องเก็บให้ดีครับ แต่ในคราวนี้เป็น iPod ครับ สำหรับบทความนี้ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับ น้องหนึ่ง เจ้าของ iPod 30GB White หมาด ๆ ที่เพิ่งส่งซ่อมไปครับ เนื่องจากจอแตกครับ และขอขอบคุณสำหรับความใจดีของน้องเค้าครับ ที่ยินดีที่จะให้ผมนำเรื่องราวของน้องเค้ามาเขียนเป็นบทความเพื่อเป็นเรื่องเตือนใจสำหรับพวกเราครับ

วันก่อน ขณะที่ผมทำงานอยู่ (PIKMY) ก็มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาหา ผมก็รีบยกขึ้นมารับโดยเร็ว เพราะคิดได้ทันทีครับว่าต้องเป็นลูกค้าของเราแน่นอนเลย เพราะหากเป็นเพื่อน หรือพี่ ๆ ที่บริษัทจะมีชื่ออยู่ใน Contact List ของผมครับ

เสียงน้องหนึ่งดูร้อนใจมาก แล้วน้องหนึ่งก็รีบแนะนำตัวว่าเป็นน้องที่ซื้อ iPod ไปเมื่อวันก่อนโน้น และก็ตามด้วยคำถามว่า "พี่ครับ iPod ของผมเป็นอะไรไม่รู้ครับ อยู่ ๆ หยิบออกมาเปิดก็พบว่าจอมันดับ ไม่มีอะไรขึ้นมาเลย ทำอย่างไรดี" ผมเมื่อได้ยินดังนั้นก็สอบถามอาการไป เพื่อจะวินิจฉัยเบื่องต้นว่าเป็นอะไร เพื่อหาหนทางแก้ไขต่อไป เราคุยกันอยู่แป๊ปหนึ่งก็พอจะสรุปได้ว่า อาการดังกล่าวน่าจะเป็นจากที่ Hardware มากกว่าครับ ไม่ได้มาจาก Software ซึ่งตัวผมภาวนาให้เป็นที่ Software ครับ เพราะหากเป็น Software ก็ง่ายครับ ไม่น่าจะเป็นอะไรมากครับ และไม่น่าจะเสียตังอะไร (นับเป็นข้อดีของ iPod ครับ เพราะหาก Hardware ไม่เป็นไร ยังไงเราก็สามารถปลุกชีพเค้าขึ้นมาได้แน่นอน)

เมื่อทราบว่าเป็นที่ Hardware แล้วผมก็ถามต่อไปว่า "ไปทำอะไรมา" น้องหนึ่งก็เล่าเสริมว่า เพื่อน ๆ เอาไปเล่น แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะ iPod มันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น แต่แล้วน้องหนึ่งก็เล่าถึงว่าสงสัยโดนกระเป๋าเพื่อน ๆ ทับ เลยถามไปว่า "เก็บไว้ตรงใหนเหรอ" ก็ได้คำตอบมาว่าเก็บไว้ในด้านในกระเป๋าลึก ๆ นั่นก็อาจจะเป็นสาเหตุให้ iPod ของเราจอแตกได้ครับ เมื่อคุยกันสักพักเราก็สรุปกัันว่าคงต้องไปซ่อมที่ศูยน์ดีีกว่า เพราะอาการอย่างนี้เป็น Human Error ไม่อยู่ในประกันครับ หากเป็นแบบนี้คงต้องเสียเงินซ่อมเองอย่างแน่นอน




ที่เอามาเล่าสู่กันฟังวันนี้เพื่อเอาไว้เป็นอุทาเห่า (หรณ์) สำหรับทุกคนครับ หากจะหาถึงสาเหตุว่าทำไมจอ iPod มันถึงแตกง่ายอย่างนี้ ก็คงต้องอธิบายครับ ตรงบริเวณหน้าจอของ iPod หรืออุปกรณ์ทุกอย่างที่มีจอภาพขนาดใหญ่ เช่น PDA หรือแม้แต่เครื่องคิดเลขก็ตาม บริเวณนี้เป็นจุดที่อ่อนไหวมากที่สุดครับ เราต้องระวังเพราะ เค้ามักไม่ค่อยมีอะไรป้องกันในบริเวณหน้าจอครับ (เพราะหากมีอะไรกัน เราจะดูภาพไม่ค่อยชัด) หากกระแทกโดนโดยตรงแรง ๆ ก็เสี่ยงมากครับ ที่จอจะแตกได้ง่าย

"แล้วทีนี้เราจะป้องกันได้อย่างไรล่ะ ? " คงเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนต้องการคำตอบเป็นแน่


เริ่มแรก เรามาเริ่มจากสถานที่ในการเก็บก่อนเลยครับ เวลาเราเก็บ iPod หรืออุปกรณ์อย่างอื่นนั้น เราไม่ควรเก็บไว้ด้านในหรือด้านล่างสุดของกระเป๋า เพราะจะเป็นจุุดที่มีการกดทับค่อนข้างมาก ทำให้เสี่ยงกับจอแตก


"แล้วหากเก็บไว้ด้านหน้าของกระเป๋าล่ะ ?" หลาย ๆ คนรวมถึงน้องหนึ่งก็เช่นกัน คงกลัวของหายเป็นแน่ครับ จึงได้ไปเก็บไว้ในช่องลึก ๆ ของกระเป๋า แต่ก็ต้องเสี่ยงที่จอแตกเช่นกันครับ แล้วหากเราเก็บไว้ในช่องหน้าแล้วจะทำอย่างไรให้ของไม่หายง่าย ๆ ตรงนี้ผมเคยเห็นพวกนักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและต่างชาติ สำหรับคนที่เที่ยวบ่อย ๆ เค้ามักจะเลือกระเป๋าที่สามารถ Lock ซิปของกระเป๋าได้ครับ แล้วเค้าก็เอาแม่กุญแจมา Lock ตรงซิป ของกระเป๋า ซึ่งเราอาจจะเลือกแบบที่ใช้กุญแจก็ได้ หรือเลือกแบบที่เป็นรหัสก็ได้ การป้องกันอย่างนี้ทำให้เราลดอัตราเสี่ยงในการที่ของจะหาย รวมถึง iPod ได้ในระดับหนึ่ง

ขั้นต่อมา "หากเราไม่สามารถเก็บไว้ในด้านหน้าของกระเป๋าได้ แต่ต้องเก็บไว้ด้านในล่ะ จะทำอย่างไร ?" อันนี้ผมก็มีหนทางป้องกันมาเสนอแนะครับ เราก็ต้องหาเกราะป้องกันมาให้ iPod ของเราครับ จำพวก Case แข็ง ๆ ครับ อันนี้เราจะใส่แบบถาวรก็ได้ หรือจะใส่ ๆ ถอด ๆ เหมือนผมก็ได้ แต่ประเด็นในการเลือกนั้น


ข้อแรก ต้องมีพลาสติกใสไว้กันบริเวณหน้าจอครับ ต้องเป็นชิ้นเดียวกันยาวตลอดทั่วทั้งด้านหน้าขอตัว เพราะจะสามารถช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีครับ เวลากระแทกก็จะปลอดภัยขึ้นมานิดหนึ่งครับ


ข้อสองครับ ต้องเป็นวัสดุที่แข็ง คงรูปได้ค่อนข้างดี นำพวกพลากติกใสหนา ๆ เพราะหากเป็นจำพวก silicone แล้วมี Film บาง ๆ ปิดกันรอยมันไม่ช่วยอะไรเลยครับ หากกระแทกก็แตกอีก


ข้อที่สาม ต้องเป็น Case ที่เวลาใส่แล้วสามารถ ถอดเข้าออกได้ง่าย โดยตัวเครื่องต้องไม่เสี่ยงเป็นรอย อันนี้ผมเคยไปลอง Case รุ่นหนึ่งมา ปรากฏว่าถอดเกือบไม่ออก เกือบต้องซื้อของแย่ๆ มาแล้วครับ ผมแนะนำครับ อย่าไปใช้รุ่นจำพวกที่เวลาใส่แล้ว Lock แบบเอาตัว Case มาขัดกันเองครับ เพราะเวลาถอดออกเราต้องใช้อุปกรณ์ที่เค้าให้มางัด หรือไม่ก็เหรียญบาท ซึ่งหากถอดไม่ออกก็แย่ หรือหากถอดออกแบบทุลักทุเล Case ก็เป็นรอย หมดคุณค่าไปอีก อันนี้หากเป็นไปได้ให้เลือก Case ที่ถอดออกได้ง่าย ๆ อันนี้ต้องสังเกตุวิธีการ Lock ครับ หากแปลกมาก ๆ ก็ต้องลองดูครับ (อันนี้ผมเจอมากะตัว เป็นยี่ห้อใหม่ ผมจำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร แต่จำได้แม่นว่ามันเป็น Case ที่ขัดกันเอง ต้องเอา Card ที่เค้าให้มางัด แลัวผมงัดไม่ออก ต้องให้พี่ ๆ ที่ร้านช่วยกันงัดเลยโดนด่าไปตามระเบียบ แต่ก็ดีครับ ผมจะได้ไม่เอามาขาย เพราะของมันไม่ค่อยดี เอามาก็โดนด่า แล้วหากลองแล้วเราถอดไม่ออกเองก็หน้าแหกอีก)

ข้อที่สี่ ต้องเป็น Case ที่เวลาเราใส่ iPod เข้าไปแล้ว เราสามารถต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ ได้ง่ายจำพวกสาย USB หรือหูฟัง หรือแม้แต่การเปิด/ปิดปุ่ม Hold ครับ ต้องสามารถใช้งานได้อย่างดี ไม่ต้องแงะออกมาหรืออย่างน้อยก็ต้องถอดออกง่าย ๆ ข้อนี้ผมได้เจอ Case ยี่ห้อ CAPDASE ครับ มันเป็น พลาสติกครับ มีสายห้อย แต่ตัวหมุดเปิดออกมันอยู่ด้านล่าง ทำให้เวลาเสียบสาย USB เข้าไปถอด (โค ตระ) ยากเลยครับ มีครั้งหนึ่งตอนได้มาแรก ๆ ผมลองใส่ สาย USB เข้าไป ปรากฏว่าถอดออกยากมาก ทำให้เวลาใช้ผมใช้ก็แค่เวลาต้องการเอา iPod ใส่เข้าไปในกระเป๋าครับ ป้องกันจอแตกครับ หากจะใช้ในการใช้งานจริง ๆ คงไม่เอา (ได้มาฟรีครับ)

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีป้องกันเบื่องต้นครับ แต่ท้ายที่สุดก็คือตัวเราครับ ต้องช่วยระวังด้วยครับเพราะหากเราป้องกันอย่างไร แต่หากเผลอ iPod แสนรักของเราก็อาจจะจากไปก่อนวัยอันควรก็ได้ครับ หรือหากใครมีวิธีดี ๆ ก็แนะนำกันเข้ามาได้นะครับ เราจะได้เอามา Share กันใน Community ของเราครับ

PIKMY

No comments: